คำตอบ : ได้ โดยนำเงินวิจัยมาหารด้วยจำนวนปีของระยะสัญญา และนำผลลัพธ์ที่ได้ไปคำนวณตามสูตรการคำนวณของ สกอ.
ตัวบ่งชี้ที่ 2.2
เงินสนับสนุนงานวิจัยและงานสร้างสรรค์
คำถาม : กรณีลงนามสัญญาก่อนปีการศึกษาที่ประเมิน และมีระยะสัญญา 1 ปี ไม่สามารถนำเงินวิจัยของสัญญาฉบับนี้มาคำนวณได้ใช่หรือไม่
คำตอบ : ใช่ ไม่สามารถนำมาคำนวณได้ เพราะต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ของปีการศึกษาที่ประเมิน
คำถาม : กรณีลงนามสัญญาวิจัยภายในรอบปีที่ประเมิน และระยะสัญญามากกว่า 1 ปี ตัวอย่างเช่น ลงนามสัญญาปลายปีการศึกษา 2557 โดยมีระยะสัญญาวิจัย 3 ปี จำนวนทุนวิจัยที่ได้รับ 3 ล้านบาท ต้องคำนวณเงินวิจัยอย่างไร
คำตอบ : ตัวตั้งคือ เงินวิจัย (3 ล้านบาท) หารด้วยจำนวนระยะสัญญา (3 ปี) ผลลัพธ์เท่ากับ เงินวิจัย 1 ล้านบาท นำมานับเป็นตัวตั้งของปีการศึกษา 2557 และนำไปคำนวณตามสูตรการคำนวณของ สกอ. จะได้เป็นคะแนนของปีการศึกษา 2557 สำหรับจำนวนเงินที่เหลือจะนำไปคำนวณในปีการศึกษาต่อไปตามระยะสัญญา (ปีการศึกษา 2558 และปีการศึกษา 2559 ปีละ 1 ล้านบาท)
คำถาม : เงินสนับสนุนวิจัยงานสร้างสรรค์ กรณีมีผู้ทำวิจัย 3 คนและมีระยะเวลาทำวิจัยตามสัญญา 2 ปี
คำตอบ : กรณีมีผู้ทำวิจัย 3 คน ระยะเวลา 2 ปี ให้นำเงินมาหารตามสัดส่วนการทำวิจัยและหาร 2 ตามจำนวนปีด้วย
คำถาม : การวิจัยนับตามปีอะไร
คำตอบ :
- ตัวบ่งชี้ที่ 2.1 (ระบบและกลไกการบริหารและพัฒนางานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์) นับตามปีการศึกษา
- ตัวบ่งชี้ที่ 2.2 (เงินสนับสนุนงานวิจัยและงานสร้างสรรค์) นับตามปีการศึกษา
- ตัวบ่งชี้ที่ 2.3 (ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ประจำและนักวิจัย) นับตามปีปฏิทิน พ.ศ. 2557